วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประสบการณ์ที่เล่าขานถึงหลวงปู่

ประสบการณ์ที่เล่าขานถึงหลวงปู่ 
                ผู้เขียนได้เคยฟังคำเล่าขานกันหลายครั้ง  กล่าวอ้างว่าผู้เล่าเรื่องนี้เป็นศิษยานุศิษย์  จากจังหวัดนครสวรรค์บ้านอยู่แถว ๆ อำเภอหยุหคีรีบรรพตนิสัยหรือแถว ๆ อำเภอไพศาลี  จำไม่แม่น  เล่าให้ฟังว่าในพรรษาปีหนึ่งประมาณปี  ๒๕๐๒  หรือ  ๒๕๐๓  นี่แหละในฤดูช่วงดำนา  คงราว ๆ เดือน กรกฎาคม  ถึงสิงหาคม  เขาได้ไปไถนาที่ริมชายป่าใกล้กับเชิงเขาลูกหนึ่งเป็นปกติวิสัย  กิจวัตรประ  จำวันของเขา  ซึ่งการปักดำใกล้จะเสร็จแล้ว  บังเอิญในเช้าวันนั้น  ฝนตกพรำตั้งแต่เช้ามืดจนสายฝนก็ตกกระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตา  แกไถนาจนเหนื่อยอ่อน  ทนความหนาวเปียกไม่ได้  ด้วยความหิวเพราะสายแล้วทางบ้านก็ยังไม่นำข้าวส่งเพราะคงจะรอให้ฝนซาก่อน  จึงจะนำข้าวมาส่งให้จึงหยุดความแล้วปลดแอกปลดไถ  ปล่อยความให้ไปเล็มหญ้าข้างๆจอมปลวกกลางนาที่กำลังไถและแล้วแกก็ขึ้นไปบนจอมปลวกที่เป็นเนินดินขนาดใหญ่กลางนา  หวังจะได้หลบฝนที่กำลังเทกระหน่ำลงมาในขณะที่  วิ่งหลบฝนอยู่  หูก็ได้ยินเสียงไอ  ได้ยิน  ๒ – ๓  ครั้งติดต่อกัน  ก็เงี่ยหูฟัง  จึงเหลือบเห็นร่มกระโจมกลดซึ่งอยู่ห่างไกลที่ไถนา  ประมาณ  ๑๕  เมตร  ก็ตรงไปได้พบกับพระธุดงค์ในร่มกรดนั้นกำลังนั่งทำสมาธิอยู่  จึงล้มกราบ๓หนแล้วก็กล่าวคำทักทาย  ปราศรัยไต่ถามความว่าพระธุดงค์ได้มาปักลดเป็นเวลา  ๑  เดือนกว่า ๆ แล้ว  และท่านก็เล่าให้ฟังว่า  ได้เห็นผู้เล่าไถนา ดำนาทุกวันเหมือนกัน ก็ไถรอบ ๆจอมปลวกที่ปักกลด นั้นแหละจอมปลวกใหญ่ที่อยู่กลางเนินนา ชายป่าเนินเขานั้น  ความจริงเป็นจอมปลวกมีป่าโปร่ง  สามารถมองเห็นได้ทั่ว ๆ ไป  น่าจะได้รู้ได้เห็นเพราะไถนา ดำนาเป็นเวลาแรมเดือนแล้ว ทำไมจึงไม่เห็นกลดที่ปักอยู่  ซึ่งเป็นเรื่องแปลก  ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นที่พระธุดงค์บอกว่ามาปักกลดเป็นเดือนแล้วเมื่อพูดคุยกันแล้วก็มีความเลื่อมใส  ศรัทธาจึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ และได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้ลูกเมีย  และชาวบ้านฟัง ชาวบ้านก็มีความปิติยินดี  พามากันกราบไหว้ สนทนา และนำอาหารถวายเป็นประจำ ตลอดพรรษา และฝากตัวเป็นลูกศิษย์  พระธุดงค์นั้นก็คือ  หลวงปู่เจียม  อติสโย  นั่นเอง
          การที่พระธุดงค์มาปักกลดทำสมาธิ  ปฏิบัติธรรมนั้น  ถ้าเป็นปกติก็มองเห็นแน่ ๆ เพราะมาปักกลดอยู่แรมเดือนแล้วน่าจะเห็นแต่ที่ไม่ได้เห็นเพราะท่านต้องการความวิเวกไม่ต้องการให้ผู้คนไปยุ่งเกี่ยวด้วย  จึงต้องอยู่ในมิติหนึ่ง  แต่การที่แสดงตัวให้เห็นนั้นเข้าใจว่า  เพราะสงสารชาวนาที่กำลังเหนื่อย  หิวข้าวและเปียกฝนอยู่และมีความต้องการให้หลบฝนอยู่ที่กลดด้วย  ทำให้ได้เห็นและพบปะพูดคุยกัน
       ที่ได้นำมาบอกกล่าวเล่าขานไว้นี้  เป็นตัวอย่างหนึ่งในอีกหลาย ๆ ตัวอย่างพวกเราซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ด้วยกัน  ก็จะไม่รู้เรื่องอะไรเลย  ถ้าพวกเราไม่ได้นำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง  พวกเราจะเห็นว่า  ในการทำบุญต่ออายุหลวงปู่ใสแต่ละปีจะมีศิษยานุศิษย์จากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคเดินเข้าร่วมทำบุญ  และเล่าขานเรื่องที่ได้ยินได้ฟังนี่แหละ บางครั้งก็เล่าถึงความสำเร็จในธุรกิจหน้าที่การงานการค้าขายประกอบการบางครั้งเล่าถึงการคลาดแคล้วจากภัยอันตรายจากการสู้รบกับศัตรูแคล้วคลาดจากการใช้รถใช้ถนน  อันเป็นผลสืบเนื่องจากพลังใจที่ได้รับวัตถุมงคลจากหลวงปู่  ด้วยจิตใจที่ที่เราเคารพรัก เลื่อมใสศรัทธาในจริยาวัตรของหลวงปู่ที่ท่านเคร่งครัดในจริยาวัตร มีสมาธิแก่กล้าอย่างเสมอต้นเสมอปลาย  ด้วยจิตใจที่มีความเชื่อมั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจให้พลังจิตเป็นไปตามที่เราปรารถนาอันเป็นความต้องการที่ดีที่งามที่หลวงปู่ต้องการมอบให้ทุกคนด้วยท่านมีจิตในเมตตาสงสารให้พวกเรามีความสุขกาย  สุขใจ  หลุดพ้นจากทุกข์ภัยอันตราย  หรือ ปลดปล่อยให้เบาบาง  จากหนักเป็นเบา  ตายเป็นรอดได้